มหาวิทยาลัยเสรีแห่งเบอร์ลิน

                                                 มหาวิทยาลัยเสรีแห่งเบอร์ลิน



เยอรมันมีความน่าความสนใจโดยที่นักเรียนต่างชาติในเยอรมันนั้นไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆมากกว่าบ้านเกิดของพวกเขา มหาวิทยาลัยหลายแห่งในเยอรมนีไม่คิดค่าเล่าเรียนใดๆ ซึ่งหมายความว่านักเรียนต่างชาติไม่ต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมทางการศึกษาใดๆทั้งหมด
                    

มหาวิทยาลัยเสรีแห่งเบอร์ลิน (Freie Universitat Berlin) เป็นมหาวิทยาลัยสุดยอดด้านการวิจัยและมีความเป็นสากล มีการคาดการณ์ว่า 3 ใน 4 ของนักศึกษาในอนาคตจะมาจากต่างประเทศ

David Ravensbergen บอกว่า "มันเป็นความลับและเก็บไว้อย่างดีว่า นักเรียนสามารถที่จะมาที่นี่และมีอุปสรรคน้อยมาก" เขาเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยในสถาบัน John F Kennedy Institute (ซึ่งมีการดำเนินการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด กับทักษะภาษาขั้นสูงที่เป็นเรื่องยากในการแยกแยะการใช้ภาษาอังกฤษว่าเป็นภาษาแรกหรือภาษาที่สอง) เขายังประทับใจกับวิธีการรับนักศึกษาของสถาบันซึ่งไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมทางการศึกษาที่สูง เขากล่าวว่า "ความเป็นสากลจ่ายได้ที่นี่"

หนึ่งในเหตุผลคือความแข็งแกร่งทางการเงินของสถานศึกษา และถ้าคุณไปเรียนมหาวิทยาลัยในแคนาดามันจะหมายถึงการที่ต้องเป็นหนี้ การเรียนการสอนที่เป็นอิสระของค่าใช้จ่ายจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของนักศึกษาต่างชาติกับการที่คุณจะฝากอนาคตไว้ที่นี่
 
                            
                                       Sophie Perl

Sophie Perl นักศึุกษาจากสหรัฐอเมริกา ยังบอกกล่าวถึงความสามารถในการเรียนต่อต่างประเทศในขณะที่จ่ายน้อยกว่าบ้านเกิดของเขา "ฉันคิดว่าปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดคือเรื่องเงิน"  ในสหรัฐอเมริกาหลักสูตรบัณฑิตศึกษาจะมีค่าใช้จ่ายหลายหลายร้อยหลายพันดอลล่าร์แต่ในเยอรมันไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร และไม่เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นสำหรับนักศึกษาต่างชาติซึ่งเหมือนกันกับนักศึกษาเยอรมัน

Dr. Christian Lammert ผู้นำในการสัมมนา เสนอว่า "มันมีความเป็นนานาชาติอย่างสมบูรณ์ของหลักสูตร" แม้ในกระดานประกาศตามทางเดินก็เป็นภาษาอังกฤษ การมองออกไปนอกหน้าต่างในช่วงบ่าย ช่วงเย็น หรือในสถานีรถไฟใต้ดินก็เช่นเดียวกัน

แต่ในห้องเรียนมันอาจจะเป็นโลกวิชาการที่มีภาษาอังกฤษ และความหลากหลายของกลุ่มทางวัฒนธรรม แต่มันก็เพียงพอที่จะพูดกันในเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรม

Lena Verbeek นักศึกษาชาวเยอรมัน กล่าวว่า "กระบวนการคิดการเรียนรู้ภาษาอื่นในประเทศของคุณเองดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาสำหรับนักเรียนเยอรมัน มันธรรมดามากที่จะเรียนรู้ภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาแม่ของคุณ ดังนั้นมันจึงไม่ได้มีอะไรแปลกหรือพิเศษ สำหรับพ่อแม่ของฉันแล้ว การเรียนรู้ภาษาถือว่าเป็นสิ่งใหม่ที่พวกเขาไม่เคยคาดคิด แต่ในเยอรมันมันมีความเป็นสากลมากขึ้น" 
 
                      
                                  Julia Sunaric

นอกจากนี้ยังพบสมมติฐานอื่นๆจากนักศึกษาเยอรมันในมหาวิทยาลัยจากประเทศอื่น เช่น Julia Sunaric ซึ่งกำลังศึกษาเรื่องของการจัดการการตลาดในมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร  จีนและสเปน "ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องพิเศษกว่าคนอื่นๆ เพราะพวกเขาก็มีประวัติการศึกษาคล้ายๆกันกับฉันทั้งในเยอรมนีและการไปศึกษาในต่างประเทศ"

นอกจากนี้เธอยังกล่าวว่านักเรียนชาวเยอรมันจะมุ่งไปที่มหาวิทยาลัยในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเพราะเห็นประโยชน์สำหรับงานในองค์กรธุรกิจทั่วโลก

"เมื่อมหาวิทยาลัยมีหลักสูตรภาษาอังกฤษเป็นจำนวนมาก สิ่่งนั้นจะทำให้สถาบันมีชื่อเสียง ถ้านักเรียนมีความสามารถและมีแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษ จะเป็นสิ่งที่ดีของนักเรียนต่อภาพลักษณ์ในระดับสากล" แต่สิ่งที่อยู่ในมหาวิทยาลัยนั้นเช่นเรื่องแรงจูงใจทางการเงิน นักเรียนต่างชาติจะต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ

                       
                                                      Herbert Grieshop

Herbert Grieshop กรรมการบริหารศูนย์ความร่วมมือระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเสรีแห่งเบอร์ลิน กล่าวว่า "มันเป็นไปโดยเจตนารมณ์ เพราะเราต้องการที่จะเป็นนานาชาติ มันช่วยนักเรียนของเราและงานวิจัยของเรา"

ความคิดในเรื่องความเป็นสากลของมหาวิทยาลัยถูกแทรกซึมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1948 ในการเป็นมหาวิทยาลัยโซนตะวันตกของเมือง ซึ่งจะมีการส่งเสริมและเชื่อมโยงโลกโดยมีการริเริ่มในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยที่ถูกออกแบบโดย Sir Norman Foster 
 
                                
                             ห้องสมุดที่ถูกออกแบบโดย Sir Norman Foster

Grieshop ได้พูดถึงอาคารคลาสสิคในปี ค.ศ. 1950 ซึ่งมีองค์ประกอบของแสงและการมองโลกในแง่ดีในช่วงหลังสงคราม โดยมีนโยบายอ้าแขนต้อนรับนักเรียนต่างชาติที่มากขึ้นกับวัฒนธรรมความเป็นสากล "มันจะเป็นการดีต่อเราและเพื่อนบ้านของเรา เป็นพื้นฐานทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของเรา เราเป็นประเทศที่มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้า"


ชั้นเรียนของ Freie Universitat Berlin




"ปัญหาระดับโลกต้องการความร่วมมือในการวิจัย นักเรียนของเราจะนำความรู้ไปใช้ในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ มหาวิทยาลัยไม่ได้เปิดวิทยาเขตในต่างประเทศ แต่จะพัฒนาความร่วมมือผ่านเครือข่ายของสำนักงานในต่างประเทศ รวมทั้งจีน สหรัฐอเมริกา รัสเซียและอินเดีย"

Pat Killingley ผู้อำนวยการการศึกษาอุดมศึกษาของ British Council  กล่าวว่า การร่วมมือกันระดับสากลของมหาวิทยาลัยต่างๆจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลก ความร่วมมือเหล่านี้เป็นวิถีการสร้างการแลกเปลี่ยนระหว่างนักศึกษาและบุคลากร

สำหรับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร Pat กล่าวว่านักศึกษาต่างชาติจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในหลักสูตรปริญญาโท "มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลที่นักเรียนจะไปศึกษายังสหราชอาณาจักร และมันเป็นระบบสนับสนุนฐานการวิจัยนานาชาติ" มันเป็นภาพของโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ที่จะเข้าหากัน จะมีการแข่งขันมากขึ้นและมีความร่วมมือกันของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นระบบ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลที่ดีๆนะค่ะ # Cr. แปล/เรียบเรียงโดย : ต้นซุง Eduzones